6 อาการท้องผูกที่คุณควรรู้ ก่อนจะสายเกินไป!

ท้องผูก เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย และมักถูกมองข้าม แต่หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ริดสีดวงทวารหนัก หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ได้

รู้หรือไม่? อาการท้องผูกไม่ได้มีแค่ถ่ายน้อยเท่านั้น แต่ยังมีอาการอื่นๆ อีกมากมายที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหานี้

6 อาการท้องผูก

1.ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์

โดยปกติแล้ว คนเราควรถ่ายอุจจาระประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากน้อยกว่านี้ อาจบ่งบอกถึงปัญหาท้องผูกได้
สาเหตุ: อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความเครียดสูง

2. ถ่ายน้อย เป็นก้อนแข็ง หรือเม็ดเล็กๆ หลายๆ เม็ด

อุจจาระมีลักษณะแข็ง ไม่นุ่ม ทำให้ถ่ายลำบาก
สาเหตุ: เกิดจากการที่ลำไส้ใหญ่ดูดซึมน้ำออกจากอุจจาระมากเกินไป ทำให้อุจจาระแข็ง

3. เบ่งยาก นั่งนาน ถ่ายไม่สุด

ต้องใช้แรงเบ่งมากในการถ่ายอุจจาระ และมักใช้เวลานานในการถ่ายแต่ละครั้ง
สาเหตุ: เกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก และความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมการขับถ่าย

4. เจ็บทวารหนักเวลาขับถ่าย

รู้สึกเจ็บปวดบริเวณทวารหนักขณะหรือหลังการถ่ายอุจจาระ
สาเหตุ: อาจเกิดจากการที่อุจจาระแข็ง บาดเจ็บรูทวาร หรือเป็นสัญญาณของโรคริดสีดวงทวาร

5. ต้องใช้น้ำฉีด หรือมือช่วยล้วง ถึงจะถ่ายได้

ต้องใช้วิธีการอื่นๆ นอกเหนือจากการเบ่งตามปกติ เพื่อช่วยในการขับถ่าย
สาเหตุ: อาจเกิดจากการอุดตันของลำไส้ หรือปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก

6. เรอ ท้องอืด ปวดท้อง มีลมเยอะ

อาการเหล่านี้มักเกิดร่วมกับอาการท้องผูก และบ่งบอกถึงปัญหาในการย่อยอาหาร
สาเหตุ: อาจเกิดจากการรับประทานอาหารบางชนิด หรือเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และมักทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ในตัวเอง ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น

เมื่อใดควรพบแพทย์?

หากคุณมีอาการท้องผูกเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพบอาการเหล่านี้ร่วมด้วย:

• มีเลือดปนในอุจจาระ: อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง
  
• น้ำหนักลด: อาจเกิดจากการดูดซึมสารอาหารไม่ดี
• ปวดท้องอย่างรุนแรง: อาจเป็นสัญญาณของการอุดตันในลำไส้

NITE ON+ ไนท์ ออน+ ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้อย่างไร?

ไนท์ ออน+ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีจุลินทรีย์มีชีวิตถึง 1 พันล้านตัว พร้อมไฟเบอร์ ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้อุจจาระนุ่มขึ้น ขับถ่ายง่ายขึ้น และยังช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรงอีกด้วย

คำแนะนำเพิ่มเติม

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
  
• รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง: ผัก ผลไม้ ธัญพืช เป็นต้น
  
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้
• หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดแก๊ส: เช่น เครื่องดื่มที่มีแก๊ส

*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ*